PM 2.5 วันนี้ ส่ง SMS เตือนหลัง "ฝุ่นพิษ" สีแดง 31 พื้นที่บางแห่งทะลุ 3 เท่า

วันนี้ (14 ก.พ.2567) เมื่อเวลา 18.00 น. แอปพลิเคชัน LINE ALERT กทม.แจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีระดับสีแดงจำนวน 31 เขต เนื่องจากสภาพอากาศปิดต่อเนื่อง ทำให้ PM2.5 ในพื้นที่ 31 เขตมีฝุ่นเกินมาตรฐาน คือ คลองเตย คลองสาน คลองสามวา คันนายาว จตุจักร ดินแดง ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา ธนบุรีบางกอกน้อย บางเขน บางชื่อ บางนา บางบอน บางพลัด บึงกุ่ม ปทุมวัน ประเวศ ป้อมปราบฯ พระโขนง มีนบุรี ยานนาวา ลาดกระบัง ลาดพร้าว วังทอง หลาง สัมพันธวงศ์ หนองแขม หนองจอก หลักสี่ ทุ่งครุ ดอนเมืองมีระดับที่มาก กว่า 75 มคก.ต่อ ลบ.ม.ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น หากมีอาการทางสุขภาพควร ปรึกษาแพทย์ PM 2.5 มีผลกระทบต่อสุขภาพ

อ่านข่าว ฝุ่น กทม.-ปริมณฑล “สีแดง” 20 พื้นที่ สูงสุด 95.8 มคก./ลบ.ม.

ทส.ให้ WFH ได้ตามความเหมาะสมถึงวันหยุด

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5  ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ส่วนใหญ่ของพื้นที่เกินค่ามาตรฐานโดยอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) และมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) และมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง

นายจตุพร กล่าวว่า เพื่อลดแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง และเพื่อป้องกันสุขภาพอนามัยของประชาชน ทส.ได้แจ้งประสานกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการยกระดับการปฏิบัติการ การเฝ้าระวังเรื่องการสาธารณสุข และจังหวัดที่มีการเผาในพื้นที่เกษตร และพื้นที่ปา กำชับเข้มงวดควบคุม เพื่อลดผลกระทบที่เกิดทั้งในพื้นที่และการส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียง

พร้อมกันนี้ ต้องขอความร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ให้พนักงานทำงานแบบ Work From Home ตามสัดส่วนที่สามารถทำได้ ตั้งแต่วันนี้ไปถึงวันหยุดสุดสัปดาห์

55 จังหวัดอ่วมฝุ่นเกินมาตรฐาน-กทม.เกิน 3 เท่า 

ล่าสุด ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานภาพรวมฝุ่น PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐาน 55 จังหวัด ดังนี้ ปทุมธานี กทม. นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ เชียงราย น่าน พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา จกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จ.นครนายก จปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง หนองคาย เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ นครราชสีมา และสุรินทร์

• ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ 18 -83.2 มคก.ต่อลบ.ม.
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ 22.5 -73.7 มคก.ต่อลบ.ม.
• ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ 51.5-110.1 มคก.ต่อลบ.ม.
• ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 39.2-81.3 มคก.ต่อลบ.ม.
• ภาคใต้ เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 14.6-37.8 มคก.ต่อลบ.ม.
• กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ​ ​กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 58.3-105 มคก.ต่อลบ.ม.